Forum : Using Letters to Tell Stories in the EFL Classroom

Using Letters to Tell Stories in the EFL Classroom

โปรแกรม EFL  ( English  as  a  Foreigner  Language )  เป็นโปรแกรมการเรียนการสอนที่เป็นเอกลักษณ์  หัวใจหลักที่สำคัญ  คือ  การเรียนเฉพาะตัว  โดยมีเป้าหมายหลัก  คือ  Reading  Comprehension  หรือ  การอ่านเพื่อความเข้าใจ  เพราะเชื่อว่าเด็กมีทักษะในการอ่านสูงและมีนิสัยรักการอ่าน  จะเป็นผู้นำพาตัวเองไปสู่โลกแห่งการแสวงหาความรู้  ทั้งนี้  นักเรียนจะได้พัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษด้านอื่นๆ  ได้แก่  การฟัง  การพูด  และเขียนไปพร้อมๆกัน  ลักษณะเด่นของหลักสูตร EFL  ได้แก่

เรียนรู้ด้วยตนเอง (Self - Learning)
เริ่มเรียนจากจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม (Just - Right  Level)
ฝึกฝนทุกวัน (Daily - Study)
และสร้างพื้นฐานจากการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ยั่งยืน (Life - Long  Learning  Skills)

ซึ่งต่างจากการเรียนในโรงเรียนหรือสถาบันสอนภาษาอื่นๆ นักเรียนจะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นรายบุคคล มีการบันทึกความก้าวหน้า และผลการเรียนทุกวัน นักเรียนจะต้องมีการทดสอบวัดระดับ เพื่อเริ่มต้นในระดับที่เหมาะสม ในระดับที่รู้สึกว่าทำได้ มั่นใจในการเรียนภาษาอังกฤษ

 English Teaching Forum 2011, Volume 49, Number 4

Forum : Teaching Listening Skills to Young Learners through 'Listen and Do' SongsExpand

Teaching Listening Skills to Young Learners through 'Listen and Do' Songs Expand

English Teaching Forum 2012,Number 3

                        

              การพัฒนาทักษะการฟังเป็นพื้นฐานอีกส่วนประกอบหนึ่งของหลักสูตร ESL / EFL

สำหรับ YLsเพลงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด พวกเขาให้ฝึกภาษาที่มีความหมายและสนุกสนานผ่านทางบทเพลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งเสริมทักษะการฟัง ยิ่งฟังเพลงมากเท่าไหร่ นักเรียนก็จะยิ่งพัฒนาทักษะได้มากขึ้นเท่านั้นประสิทธิผลและความสำคัญของเพลงเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาใช้เพลงร่วมกับTPR ซึ่งเกี่ยวข้องเกมที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย

Forum : Lesson Plan: Athletes, Actions, and Adjectives

Lesson Plan: Athletes, Actions, and Adjectives

English Teaching Forum 2010,  Number 4 

  

People who are very familiar with American football and those completely unfamiliar with it can benefit from the interactive, communicative activities presented in this lesson plan. Students can analyze examples from the NFL and create their own team names, team logos, and player descriptions. Ideas for teaching adjectives and body parts are also provided. In the spirit of the game, the plan features quick, lively group activities, all under 50 minutes each.

Forum : Getting Teens to Really Work in Class

Getting Teens to Really Work in Class

Teaching a foreign language to teenagers is a special challenge, and it requires a 

teacher who is both flexible and resourceful. Flexibility can be reinforced by knowledge of adolescent brain development. Recent brainbased research throws light on why teenage students need to move, play, and interact with peers, and why, despite all our best efforts, they sometimes doze off in class. A teacher who understands why teenage students may be drowsy in class, seem unmotivated, or have rash reactions will be better able to deal with these issues and be a more effective teacher. The toolkit of activities and techniques discussed in this article is based not only on research, but also on our own experience teaching teens. It is our hope that the suggestions made in this article will increase teachers’ repertoire of resources to help them deal 

successfully with this especially challenging, but certainly lovable, age group.

N u m b e r 4  2 0 1 2

Total Physical Response

Total Physical Response

ประเด็นหลัก  คือ  ผู้เรียนต้องเรียนภาษาแบบสนุกและมีความเครียดน้อยที่สุด  ซึ่งการเรียนภาษาได้ดีนั้นจะเกี่ยวกับสมองซีกขวามมากกว่าซีกซ้าย

ลักษณะพิเศษ

1.ครูทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ  นักเรียนเป็นนักแสดง   โดยใช้ท่าทางประกอบภาษานั้นๆ
2.เน้นทักษะการฟังและปฏิกิริยาท่าทางมากกว่าทักษะการพูด
3.เน้นใช้ประโยคคำสั่ง
4.ถ้ามีโอกาสครูจะต้องใส่มุกตลกไว้ด้วย
5.นักเรียนจะไม่ถูกบังคับให้พูดจนกว่าจะพร้อม
6.เน้นไวยากรณ์,คำศัพท์  ภาษาพูดจะเน้นมากกว่าภาษาเขียน

ขั้นตอนการสอน

1.ครูออกคำศัพท์เป็นภาษาเป้าหมาย  และทำให้ดู
2.ให้เด็กอาสา
3.เมื่อเด็กเข้าใจครูก็เพิ่มคำใหม่เข้ามา
4.เอาคำสั่งใหม่ที่เด็กไม่เคยได้ยินมาก่อน
5.เขียนคำสั่งบนกระดาน

เทคนิคการสอน

1..ใช้คำสั่ง
2.การสลับปรับเปลี่ยนบทระหว่างครูกับนักเรียน
3.มีการใช้คำสั่งเป็นลำดับ

The Direct Method

The Direct Method (natural method)

เชื่่อว่า :

1.ภาษาพูดมาก่อนที่จะเป็นภาษาพื้นฐาน
2.เชื่อในการสอนออกเสียง
3.ผู้เรียนจะต้องฟังตัวภาษาก่อนที่จะเห็นตัวภาษา
4.การสอนคำต้องอยู่ในรูปประโยค
5.ฝึกบริบทที่มีความหมาย
6.สอนแบบอุปนัย  ไม่แปล  และให้เด็กอธิบาย

เป้าหมาย

1.เรียนภาษาเป้าหมายเท่านั้น
2.เน้นคำศัพท์และประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
3.ฝึกทักษะการพูดโดยฝึกการถาม-ตอบระหว่างครูกับนักเรียน
4.สอนแบบอุปนัย
5.เมื่อเริ่มสอนประเด็นใหม่  ต้องนำเสนอด้วยวาจา
6.คำศัพท์ที่เป็นรูปธรรมต้องใช้การสาธิต
7.สอนเรื่องการฟัง-พูด
8.เน้นย้ำการออกเสียงให้ถูกและแม่นยำ

ขั้นตอนการสอน

1.ฟังและอ่าน
2.สอนคำศัพท์โดยใช้ภาษาเป้าหมาย
3.ฝึกการออกเสียง
4.ตรวจสอบความเข้าใจด้วยการตอบคำถาม
5.สอนหลักไวยากรณ์แบบอุปนัย
6.ให้ทำแบบฝึกหัดโดยการเติมคำในช่องว่าง,เขียนตามคำบอก,เขียนความเรียง

เทคนิการสอน

1.อ่านออกเสียง
2.ถาม-ตอบแบบฝึกหัด
3.แก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง
4.ฝึกบทสนทนา
5.ทำแบบฝึกหัดโดยการเติมคำในช่องว่าง
6.เขียนตามคำบอก
7.วาดแผนที่
8.เขียนย่อหน้า

Suggestopedia

Suggestopedia

เป็นการเรียนรู้ภาษาที่เกิดอัตราการเรียนรู้ได้เร็วกว่าการเรียนอื่นๆ  โดยธรรมชาติแล้วผู้เรียนมีอุปสรรคทางจิตวิทยา  เพื่อขัดขวางการเรียนรู้ของตนเอง  ซึ่งการที่เราจะช่วยให้ผู้เรียนให้เรียนได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์  คือ  ครูผู้สอนต้องมี suggestopedia  คือต้องทำลายอุปสรรคของผู้เรียน  โดยการก้าวข้ามอุปสรรค

เป้าหมายหลัก

1.บรรยากาศห้องเรียนสะดวกสบาย  มีความผ่อนคลาย

2.ผู้เรียนสามารถเรียนรู้โดยไม่รู้ตัวจากสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆ  

3.ถ้านักเรียนเชื่อใจและเคารพในบทบาทของครู  ก็จะสามารถรับข้อมูลได้ดีขึ้น

4.ครูต้องพยายามกำจัดสิ่งที่ผู้เรียนสร้างขึ้นมา

5.ทำอย่างไรก็ได้ให้นักเรียนเกิดความมั่นใจ  เพราะยิ่งมั่นใจมากเท่าไหร่  ก็จะเรียนรูได้ดีมากเท่านั้น

6.ใช้ภาษาแม่ในการอธิบายให้เข้าใจ

7.ใช้ศิลปะต่างๆนำมาบูรณาการ

8.ต้องรับข้อผิดพลาาดต่างๆที่ผู้เรียนสร้างขึ้นได้

ขั้นตอนการสอน

1.นักเรียนสมมุติตัวเองเป็นคนใหม่  ชื่อใหม่  อาชีพใหม่

2.ครูสอนบทสนทนา  คำศัพท์  ไวยกรณ์

3.ครูอ่านบทสนทนาให้ฟังสองรอบ

   รอบที่1  ทำเสียงให้สอดคล้องกับเสียงดนตรี

   รอบที่2  อ่านเร็วกว่าปกติ  มีดนตรีประกอบการอ่าน  เด็กฟังตามสบาย

4.ให้ผู้เรียนได้รับโอกาสในการทำกิจกรรมที่หลากหลาย  เช่น  ละคร  เกม

เทคนิคการสอน

1.ครูจัดบรรยากาศห้องเรียนให้มีความผ่อนคลาย  

2.ผู้เรียนเรียนรู้สิ่งต่างๆที่เห็นในห้องเรียนโดยไม่ตั้งใจ

3.ผู้เรียนได้รับการแนะนำ

4.ผู้เรียนได้เห็นภาพ  ครูอาจจะวาดให้ดู

5.ผู้เรียนเลือกตัวตนใหม่

6.ใช้บทบาทสมมุติ

7.อ่านตามทำนองเพลง

8.ใช้กิจกรรมที่หลากหลาย